ทำความรู้จักกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (Cashew Nut) คือ เมล็ดของต้นมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในบราซิล แต่ในปัจจุบันมีการปลูกในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย อินเดีย และเวียดนาม เม็ดมะม่วงหิมพานต์มีรสชาติหวานมัน และนิยมใช้ในการทำขนมขบเคี้ยว, ของว่าง, หรือเป็นส่วนประกอบในอาหารต่างๆ ทั้งในรูปแบบคั่ว หรือผสมในน้ำสลัด ซอส และขนมหวาน นอกจากนี้ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น ไขมันไม่อิ่มตัว (ดีต่อสุขภาพหัวใจ) โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ เช่น แมกนีเซียม ทองแดง และฟอสฟอรัสที่ช่วยบำรุงร่างกาย เมื่อนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาเผาจะทำให้มีรสชาติที่หอม และอร่อยมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงกรรมวิธีการเผาที่ไม่ใช้น้ำมันในการปรุงแต่ใช้วิธีการคั่วให้มีรสชาติที่ดีขึ้น จึงมั่นใจได้ว่าไม่มีน้ำมันมาเป็นส่วนประกอบในการผลิตจึงดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น


ประโยชน์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์

1. ดีต่อหัวใจ: เม็ดมะม่วงหิมพานต์มีไขมันไม่อิ่มตัว (monounsaturated fats) ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

 2. บำรุงกระดูก: เม็ดมะม่วงหิมพานต์มีแร่ธาตุเช่น แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และแคลเซียม ซึ่งช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงและลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน

 3. ช่วยควบคุมน้ำหนัก: เม็ดมะม่วงหิมพานต์มีโปรตีนและไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยให้รู้สึกอิ่มนานและควบคุมการรับประทานอาหารได้ดีขึ้น

 4. บำรุงสมอง: การบริโภคเม็ดมะม่วงหิมพานต์สามารถช่วยเสริมการทำงานของสมอง เนื่องจากมีสารอาหารที่ช่วยบำรุงเซลล์ประสาท เช่น ธาตุเหล็ก ทองแดง และวิตามินบี

 5. ช่วยระบบย่อยอาหาร: เม็ดมะม่วงหิมพานต์มีไฟเบอร์ที่ช่วยในการย่อยอาหารและส่งเสริมการขับถ่ายที่ดี

 6. ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน: เม็ดมะม่วงหิมพานต์มีสังกะสีและวิตามินบีที่ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันและช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับการติดเชื้อได้ดีขึ้น

 7. บำรุงผิวพรรณ: ด้วยวิตามินอีที่มีในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์และลดริ้วรอย

การทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์ในปริมาณที่เหมาะสมช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดี แต่ควรระวังเรื่องแคลอรีเนื่องจากมันมีไขมันสูง